1. จัดหมวดหมู่สิ่งของในบ้าน
– เริ่มจากการจัดสิ่งของทั้งหมดในบ้านออกเป็นหมวดหมู่ เช่น เสื้อผ้า หนังสือ เครื่องครัว ของใช้ในห้องน้ำ และของตกแต่ง จากนั้นคัดแยกสิ่งของที่ไม่ได้ใช้ หรือไม่จำเป็นออกจากกลุ่ม สิ่งนี้ช่วยให้มองเห็นภาพรวมได้ง่ายขึ้นและรู้ว่ามีของประเภทไหนบ้างที่ต้องคัดออก
2. ถามตัวเองว่าสิ่งของชิ้นนั้นจำเป็นหรือไม่
– ลองถามตัวเองว่าของชิ้นนั้นยังมีความจำเป็นและใช้ประโยชน์ได้จริงหรือไม่ สิ่งของที่ไม่ได้ใช้งานนานเกิน 6-12 เดือนหรือที่ไม่ใช้งานแล้วก็อาจไม่จำเป็นต้องนำไปด้วย เช่น เสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่ เครื่องครัวที่ไม่ได้ใช้ หรือตกแต่งที่ไม่ตรงกับสไตล์บ้านใหม่
3. แยกสิ่งของที่มีสภาพดีเพื่อบริจาคหรือขายต่อ
– สิ่งของที่ยังอยู่ในสภาพดีและอาจมีผู้อื่นต้องการ เช่น เสื้อผ้า ของเล่น หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำงานปกติ แนะนำให้บริจาคให้กับองค์กรการกุศลหรือขายต่อเพื่อสร้างรายได้และเพิ่มประโยชน์ให้กับผู้อื่น การคัดแยกแบบนี้ยังช่วยลดขยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
4. ทิ้งสิ่งของที่ชำรุดหรือไม่สามารถใช้งานได้แล้ว
– ของที่แตกหัก เสียหาย หรือหมดอายุการใช้งาน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุด หรือเครื่องสำอางหมดอายุ ควรคัดแยกออกและทิ้งอย่างเหมาะสมตามวิธีการทิ้งขยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปริมาณของที่ต้องขนย้าย
5. จำกัดปริมาณของตกแต่งหรือของที่ไม่ใช้เป็นประจำ
– ของตกแต่งที่ไม่จำเป็น เช่น ของประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือของสะสมบางประเภท อาจไม่จำเป็นต้องนำไปทุกชิ้น เลือกเฉพาะของที่มีคุณค่าทางใจหรือเข้ากับบ้านใหม่เท่านั้น ช่วยลดพื้นที่ในรถขนย้ายและจัดบ้านใหม่ได้ง่ายขึ้น
6. ประโยชน์จากการคัดแยกของที่ไม่จำเป็น
– การคัดแยกของที่ไม่จำเป็นช่วยลดจำนวนของที่ต้องขนย้าย ลดน้ำหนักในการขนย้ายซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังช่วยให้การจัดการบ้านใหม่เป็นไปอย่างเป็นระเบียบมากขึ้น ไม่ต้องหาพื้นที่สำหรับสิ่งของที่ไม่ได้ใช้งานและลดความยุ่งยากในการจัดบ้าน
7. ทำลิสต์ของที่ต้องการเก็บไว้และต้องการกำจัด
– ทำลิสต์ของสองกลุ่มนี้อย่างชัดเจน เช่น กลุ่มที่จะนำไป กลุ่มที่จะทิ้ง และกลุ่มที่จะบริจาคหรือขายต่อ การจัดทำลิสต์ช่วยให้ไม่พลาดสิ่งของสำคัญและทำให้รู้ได้ว่าควรจัดการของอย่างไรเมื่อถึงเวลาแพ็ค
8. กำหนดเวลาในการคัดแยกเพื่อไม่ให้ขนย้ายล่าช้า
– การคัดแยกของควรทำล่วงหน้าก่อนวันขนย้ายอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้มีเวลาในการจัดการอย่างเหมาะสม ลดความเร่งรีบและความเครียด การเตรียมการล่วงหน้ายังช่วยให้คุณสามารถกำหนดลำดับขั้นตอนการขนย้ายได้ดียิ่งขึ้น